Where Moments Never End; Japan in Autumn

Period
ก.ย. - พ.ย.
Group Size
Max 6  -  Min 6
Season
Autumn

Country
Japan
Route
Accommodation
Meal
Transportation
Physical Rating
Journey Type
Photo Trip / Road Trip
Journey Theme
Landscape, Culture, Nature, Photo Trip

จำนวนวัน
30
(ลางาน 7 วัน)
ราคา
฿0
 
จำนวนวัน
30
 

ราคา
฿0
ลูกค้าเก่า ฿0

FOTO JOURNEY ยินดีพาท่านไปชม…ความงดงามของธรรมชาติ….ช่วงเวลาที่สุดแสนจะโรแมนติก….ไม่มีใครไม่หลงรักที่นี่…. Japan in Autumn…..ญี่ปุ่นกับฤดูกาลใบไม้เปลี่ยนสี หนึ่งในฤดูกาลที่น่าท่องเที่ยวมากที่สุด…สำหรับฤดูกาลที่เต็มเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์จากการสรรค์สร้างของธรรมชาติเป็นผลงานตระการตาด้วยใบไม้ที่เปลี่ยนจากสีเขียวสู่สีส้ม แดง และเหลืองทองสลับกัน เก็บภาพเทศกาลงานชมใบไม้แดงประจำปีที่ทะเลสาบคาวากุจิโกะ บริเวณ Maple Corridor….และใบไม้เปลี่ยนสีรอบทะเลสาบฯ คู่กับภูเขาไฟฟูจิ…ในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีที่จะตราตรึงใจของทุกท่านตลอดทริปเที่ยวชม…

เก็บภาพ Diamond Fuji บริเวณทะเลสาบยามานากะหรือSwan Lake ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดรอบภูเขาไฟฟูจิ….น้ำตกชิเรียวโตะน้ำตกอันศักดิ์สิทธิ์กับ…จุดชมวิว Nihondaira ที่ชิซุโอกะ…ชายหาดมิโฮ หนึ่งในสถานที่ชมวิวภูเขาไฟฟูจิที่สวยงามอีกแห่งหนึ่ง ชายหาดยอดนิยมที่อยู่คู่กับต้นสนอายุ 650 ปี….ดื่มด่ำเส้นทางธรรมชาติที่ยังคงเดิมยาวนานกว่า 400 ปีของจังหวัดชิซูโอกะ เยี่ยมชม…เจดีย์แดงชูเรโตะ…อนุสรณ์สถานและต้นกำเนิดของวัฒนธรรมชาวญี่ปุ่น ร่วมเป็นหนึ่งในประสบการณ์การเรียนรู้เทคนิคการถ่ายภาพ เสมือนหนึ่งยกห้องการเรียนไปในสถานที่จริงพร้อมกับมี ผู้เชี่ยวชาญด้านการภาพถ่ายค่อยแนะนำตลอดการเดินทาง
รวมถึงการใช้เวลาเพื่อสัมผัสจุดที่สวยที่สุดที่สุดของญี่ปุ่นเพื่อเป็นบทสรุปของทิวทัศน์ทั้งหมดของญี่ปุ่นเทศกาลใบไม้เปลี่ยนสี ในทุกจุดไฮไลท์ที่ถูกขนานนามว่าเป็นที่สุดของญี่ปุ่นไปพร้อมกับเรา

และที่สำคัญเราจะพาทุกท่านไปถ่ายรูปในหลายประสบการณ์ หลากเทคนิค โดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านการภาพถ่าย (Photo Specialist) สอนถ่ายภาพตั้งแต่ระดับพื้นฐาน คอยแนะนำเทคนิค, มุมมอง, องค์ประกอบภาพ รวมถึงการให้คำปรึกษาวิเคราะห์ภาพที่ถ่ายอย่างเป็นกันเอง และ เข้มข้น
 

ข้อดีของ Private Journey

* อิสระที่…..คุณจะได้ "เที่ยว" กับเฉพาะกลุ่มคนที่รู้ใจ 

* อิสระที่.....คุณจะได้ "เลือก" และระบุ Photo Specialist เพื่อดูแลกลุ่มสมาชิกของท่านได้

* อิสรที่.....คุณจะได้ "กำหนด" อะไรต่างๆ เอง

* อิสระที่….คุณจะได้ "ปรับ" โปรแกรม ว่าอยากไปที่ไหน หรืออยากจะเริ่มออกเดินทางตอนกี่โมง

 

เงื่อนไขเกี่ยวกับ Private Journey

* ราคาที่ระบุ เป็นราคาประมาณการเท่านั้น อาจปรับเปลี่ยนตามช่วงเวลา, ที่พัก, อาหาร, พาหนะ, จำนวนลูกค้า และเงื่อนไขอื่นๆ ที่ทางสมาชิกต้องการปรับเปลี่ยน

Highlight

Highlight:


o    เทศกาลชมใบไม้แดงประจำปีที่คาวากุจิโกะ (Fuji Kawaguchiko Autumn Leaves Festival 2019))

เทศกาลสุดแสนพิเศษที่จัดขึ้นทุกปีในช่วงเดือนพฤศจิกายน บริเวณ Maple Corridor โดยมีต้นเมเปิ้ลที่ขึ้นอยู่ทั้ง 2 ฝั่งของคลองแม่น้ำที่เมื่อใบไม้สีแดงที่ร่วงหล่นจากต้นเมเปิ้ลลงมากองตามทางไหลของแม่น้ำปกคลุมจนกลายเป็นพรมสีแดงสุดแสนโรแมนติก และมีการประดับไฟ (Light up)ให้กับต้นไม้ในช่วงกลางคืนยิ่งดูสวยงาม ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาเยี่ยมชมอย่างมากมาย


o    ทะเลสาบคาวากุชิโกะ (Kawaguchiko Lake)

ถือเป็นทะเลสาบที่ใหญ่เป็นอันดับสองของทะเลสาบทั้งห้าที่อยู่รอบภูเขาไฟฟูจิ และเป็นสถานที่สวยติดอันดับในการถ่ายภาพวิวภูเขาไฟฟูจิคู่กับใบไม้เปลี่ยนสีที่ท่านจะพลาดไม่ได้


o    Momiji Tunnel อุโมงค์ใบเมเปิ้ล จุดถ่ายใบเปลี่ยนสียอดนิยมริมทะเลสาบคาวากูชิโกะ


o    Diamond Fuji ที่ทะเลสาบยามานากะ (Yamanaka Lake หรือ Swan Lake)

ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดรอบภูเขาไฟฟูจิ มองฟูจิซังอย่างเต็มตาและยังเป็นสถานที่ยอดฮิตของนักท่องเที่ยวที่ชอบมารอถ่ายรูปหงษ์คู่กับภูเขาไฟฟูจิ และที่สำคัญคือปรากฎการณ์ Diamond Fuji หรือพระอาทิตย์เคลื่อนผ่านยอดภูเขาไฟฟูจิในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี


o    เจดีย์แดงชูเรโตะ (Chureito Pagoda)

เจดีย์ห้าชั้นบนเนินเขาที่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 750 เมตร สร้างขึ้นมาในฐานะอนุสรณ์สถานแห่งสันติภาพ ถือเป็นแหล่งบ่มเพาะวัฒนธรรมและการสืบทอดขนมธรรมเนียมประเพณีของชาวญี่ปุ่น


o    ภูเขาไฟฟูจิ (Mt. Fuji)

ภูเขาไฟที่สูงที่สุดของประเทศญี่ปุ่น รายล้อมด้วยทะเลสายน้ำจืดทั้ง 5 ฟูจิซังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญและเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของประเทศเมื่อนักท่องเที่ยวมาถึงประเทศญี่ปุ่นแล้ว จะต้องไม่พลาดที่จะมาเยี่ยมชมความงามและความยิ่งใหญ่ของภูเขาไฟฟูจิให้ได้ 


o    จังหวัดชิซูโอกะ (Shizuoka)

เป็นจังหวัดที่มีจุดถ่ายภาพภูเขาไฟฟูจิที่สวยงามหลายแห่งและเป็นแหล่งผลิตชาที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ที่มีไร่ชากว่า 50 ล้านตารางเมตร เปิดประสบการณ์ดื่มชาเขียวที่เป็นความภาคภูมิใจของชาวญี่ปุ่นมาอย่างช้านาน 


o    น้ำตกชิเรียวโตะ(Shiraito Falls)

น้ำตกอันศักดิ์สิทธิ์ที่ไหลลงมาเป็นเส้นสายคล้ายเส้นผ้าม่านสีขาว จนได้รับการอนุรักษ์ในฐานะอนุสรณ์สถานแห่งชาติ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2479 เป็นจุดถ่ายภาพน้ำตกกับใบไม้เปลี่ยนสีโดยมีภูเขาไฟฟูจิเป็นฉากหลัง


o    ชายหาดมิโฮ (Miho Beach)

ชายหาดที่เหมาะสำหรับชมวิวภูเขาไฟฟูจิร่วมกับต้นสนที่ทอดยาวตลอด 3 กิโลเมตรของแนวชายหาดที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง

o    นิฮอนไดระ (Nihondaira)

ที่ราบสูงที่ใจกลางเมืองชิซุโอกะ นิฮอนไดระมีชื่อเสียงด้านทิวทัศน์ของภูเขาทาคาโอะ ฟูจิ, คาบสมุทรอิซุ, เทือกเขาแอลป์ตอนใต้ของญี่ปุ่น, ท่าเรือชิมิซุและอ่าวซุรูกะ ถูกจัดอันดับให้เป็นเป็น 1 ใน 100 สุดยอดทางภูมิประเทศของญี่ปุ่น

เดือนที่แนะนำ : กันยายน, ตุลาคม, พฤศจิกายน

กำหนดการเดินทาง:

ก.ย. - พ.ย. (30 วัน ลางาน 7 วัน)

รายละเอียดการบิน:

รายละเอียดการบินระหว่างประเทศ

ขาไป
Bangkok (BKK)
Narita International Airport, Tokyo(NRT)
1 มกราคม 2513
23:55 – 07:40 น.
(ระยะเวลาเดินทาง 4 ชม. 55 นาที. )
Flight TG642 Operate by Thai Airways
ขากลับ
Narita International Airport, Tokyo (NRT) –
Suvarnabhumi Airport, Bangkok(BKK)
1 มกราคม 2513
17:30 – 22:30 น.
(ระยะเวลาเดินทาง 7 ชม. )
Flight TG677 Operate by Thai Airways

*** ทางบริษัทบริการจัดการจองตั๋วเครื่องบินระหว่างประเทศให้ได้ โดยทางเราจะคิดค่าใช้จ่ายตามจริงไม่มีบวกค่าบริการใดๆ***

Itinerary

ออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิด้วยสายการบิน Thai Airways International เที่ยวบินที่ TG642 (Direct Flight) เวลาเครื่องออก 23:45 น. ระยะเวลาเดินทาง 5ชม. 55นาทีและถึงสนามบิน Narita International Airport เมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เวลาท้องถิ่น 7:40น. ของวันรุ่งขึ้น โดยเวลาที่ประเทศญี่ปุ่นเร็วกว่าประเทศไทย 2ชม.

ถึงสนามบิน Narita International Airport เมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เวลาท้องถิ่น 7:40 น. เมื่อรับกระเป๋าจากสายพานและผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองเรียบร้อยแล้วออกเดินทางไปเก็บภาพ ในหลากหลายมุมตามจุดถ่ายภาพหลักๆ คือ เก็บภาพใบไม้เปลี่ยนสีรอบๆ ทะเลสาบคาวากุชิโกะ(Kawaguchiko Lake), ถ่าย Diamond Fuji,ถ่ายหงษ์คู่ภูเขาไฟฟูจิ และ รอถ่ายแสงเย็นจนถึงทไวไลท์ที่ทะเลสาบยามานากะ (Yamanaka Lake)


หลังจากเก็บภาพแสงเย็นเรียบร้อยแล้ว รับประทานอาหารเย็น และเข้าที่พัก พักผ่อนตามอัธยาศัย โดยคืนนี้เราจะนอนกันที่ ริมทะเลสาบคาวากุชิโกะ,จังหวัดยามานาชิ (Yamanashi)



ทะเลสาบคาวากุชิโกะ (Kawaguchiko Lake)

ทะเลสาบวากุชิโกะเป็นทะเลสาบที่อยู่ใกล้กับภูเขาไฟฟูจิมากที่สุด ซึ่งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติฟูจิฮาโกเนอิซุ ใกล้กับภูเขาฟูจิ และตำบลฟูจิกาวางูจิโกะ จังหวัดยามานาชิ ในช่วงเดือนพฤศจิกายนของทุกปีเป็นช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีโดยเฉพาะในช่วงที่เราได้มานี้จะได้สัมผัสบรรยากาศที่แสนพิเศษโดยเฉพาะใบเมเปิ้ลที่กำลังค่อยๆ เปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีเหลืองและสีแดงตามลำดับ ก่อนจะร่วงโรยสู่พื้นให้เราได้เก็บภาพสวยๆ ซึ่งสร้างความประทับใจและยังเป็นสถานที่ถ่ายภาพยอดฮิตของเหล่าช่างภาพทั่วทุกมุมโลก อีกทั้งยังเป็นสถานที่สวยติดอันดับสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพภูเขาไฟฟูจิอีกด้วย ทะเลสาบแห่งนี้ ถือได้ว่าเป็นเส้นทางที่ใกล้กับภูเขาไฟฟูจิมากที่สุด จนมีผู้เรียกว่าเป็นประตูสู่ฟูจิเลยทีเดียว อีกทั้งที่นี่ยังสามารถถ่ายภาพความงามของภูเขาไฟฟูจิได้อย่างหลากหลายทิศทาง ซึ่งบริเวณทะเลสาบจะเน้นการถ่ายภาพวิวจากธรรมชาติเป็นหลัก


“ทะเลสาบคาวากุชิโกะ” ถือเป็นทะเลสาบที่ใหญ่เป็นอันดับสองของทะเลสาบทั้งห้าที่อยู่รอบภูเขาไฟฟูจิ และเป็นสถานที่สวยติดอันดับในการถ่ายภาพวิวภูเขาไฟฟูจิที่ท่านจะพลาดไม่ได้ ที่นี่ยังเป็นเหมือนเมืองสำหรับการพักผ่อน สะดวกในการเดินทางมาท่องเที่ยวเนื่องจาก มีทั้งโรงแรม เรียวกัง ร้านอาหาร พิพิธภัณฑ์ นอกจากนี้ บริเวณโดยรอบทะเลสาบสามารถนั่งรถบัสหรือจะเช่ารถจักรยานปั่นเก็บภาพบรรยายกาศโดยรอบได้



ทะเลสาบยามานากะ (Yamanaka Lake)

อีกหนึ่งทะเลสาบที่อยู่รอบภูเขาไฟฟูจิ ทะเลสาบยามานากะถือเป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาทะเลสาบทั้ง 5 โดยที่สภาพแวดล้อมดูน่าสนใจไม่น้อยไปกว่าที่อื่นๆ เลย ที่นี่ท่านจะได้มองเห็นภูเขาไฟฟูจิอย่างเต็มตา และยังเป็นสถานที่ยอดฮิตของนักท่องเที่ยวที่ชอบมารอถ่ายรูป Diamond Fuji (ปรากฎการณ์พระอาทิตย์เคลื่อนผ่านยอดเขาฟูจิ) อีกด้วย ที่รอบบริเวณทะเลสาบท่านจะได้พบกับผู้คนที่ชอบมาทำกิจกรรมกลางแจ้งต่างๆ เช่น ล่องเรือ ตกปลา โต้คลื่น ว่ายน้ำ และยังมีพื้นที่ให้กางเต็นท์ ซึ่งถือเป็นสีสันอย่างหนึ่งที่ทำให้การถ่ายรูปไม่น่าเบื่อในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีนี้



ภูเขาไฟฟูจิ (Mt. Fuji)

ภูเขาไฟฟูจิ (Mt. Fuji) หรือฟูจิซัง ถือเป็นภูเขาที่สูงที่ในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีความสูงราว 4,231 เมตร รายล้อมด้วยทะเลสาบทั้ง 5 ในวันที่อากาศแจ่มใสเราจะสามารถมองเห็นฟูจิซังได้จากโตเกียวเลยทีเดียว ภูเขาไฟฟูจิคือหนึ่งแลนด์มาร์คที่ช่างภาพจากทั่วทุกมุมโลกตั้งใจจะมาเก็บภาพความงามในทุกฤดูกาล โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ที่สีขาวโพลนของฟูจิซังจะถูกแต่งแต้มด้วยใบไม้หลากสีที่ร่วงโรยอยู่รอบทะเลสาบนับเป็นภาพที่สวยงามอย่างไร้ที่ติ ไม่แปลกที่ภาพของฟูจิซังจะไปปรากฎตามสื่อของช่างภาพชื่อดังหลายท่าน โดยในปัจจุบันฟูจิซังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญและเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของประเทศเมื่อนักท่องเที่ยวมาถึงประเทศญี่ปุ่นแล้ว จะต้องไม่พลาดที่จะมาเยี่ยมชมความงามและความยิ่งใหญ่ของภูเขาไฟฟูจิให้ได้


คนญี่ปุ่นเชื่อว่าภูเขาไฟฟูจิคือเทพเจ้าองค์หนึ่งที่พวกเขาให้ความเคารพจึงไม่แปลกที่ภูเขาไฟฟูจิจะมีอิทธิพลต่อวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่นมาช้านาน โดยที่ภาพและชื่อของภูเขาไฟฟูจิ จะไปปรากฏในบทกลอน ภาพพิมพ์ หรือแม้แต่สื่อโฆษณาต่างๆ จนทุกวันนี้ชื่อบริษัท กล้องถ่ายรูป ชื่อสินค้า ร้านอาหาร และอื่นๆ อีกมากมายล้วนตั้งชื่อว่า “ฟูจิ” เพื่อแสดงออกถึงความเป็นญี่ปุ่นนั่นเอง


ภูเขาไฟฟูจิ ได้รับการประกาศจากองค์กร UNESCO ให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมในวันที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2545 ภายใต้ชื่อ "ฟูจิซัง สถานที่ศักดิ์สิทธิ์และแหล่งที่มาของแรงบันดาลใจทางศิลปะ" ทำให้ภูเขาไฟฟูจิเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมแห่งที่ 13 ซึ่งสร้างความภาคภูมิใจให้ชาวญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก หากท่านต้องการแรงบันดาลใจแล้วล่ะก็ ต้องไม่พลาดที่จะมาที่นี่


ออกจากที่พักเวลา 05:30 น. โปรแกรมการภาพของวันนี้เริ่มตั้งแต่แสงเช้ารอบๆ ทะเลสาบคาวากุชิโกะ(Kawaguchiko Lake),ถ่ายใบไม้แดงกับภูเขาไฟฟูจิ,ชมงานเทศกาลใบไม้เปลี่ยนสีประจำปีที่คาวากุจิโกะ(FujiKawaguchiko Autumn Leaves Festival2019) ซึ่งจัดเพียงแค่ปีละ 1 ครั้งในช่วงที่เราไปเท่านั้น, เจดีย์แดงชูเรโตะ (Chureito Pagoda)กับภูเขาไฟฟูจิ (Mt. Fuji) และถ่ายไฟเมืองยามานาชิ(Yamanashi)กับภูเขาไฟฟูจิ (Mt. Fuji), ชมไฟประดับในงานเทศกาลใบไม้เปลี่ยนสีริมทะเลสาบคาวากูชิโกะ(Light Up Autumn Leaves Festival) เข้าที่พัก พักผ่อนตามอัธยาศัย



เทศกาลงานชมใบไม้แดงประจำปีที่คาวากุจิโกะ (Fuji Kawaguchiko Autumn Leaves Festival2019)

เทศกาลชมใบไม้แดงจัดขึ้นทุกปีในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี (ประมาณวันที่ 1-23 พฤศจิกายนของทุกปี) ซึ่งในช่วงกลางวันของที่นี่จะคลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวที่ตั้งใจมาเก็บภาพไต้ไม้ที่เปลี่ยนใบเป็นสีแดงกระทั่งร่วงหล่นลงสู่พื้นเป็นพรมสีแดงที่ดูสวยงาม ไฮไลท์ของที่นี่คือทางเดินสายเมเปิ้ลที่ทุกท่านจะได้เห็นต้นเมเปิ้ลตลอดทางเดินยาวกว่า 150 เมตร ที่พร้อมใจกันเปลี่ยนเป็นสีแดง และในช่วงเย็นจนถึง 4 ทุ่ม จะมีการเปิดไฟประดับต้นเมเปิ้ลเลียบแม่น้ำนาชิกาวะและต้นเมเปิ้ลบางต้นจะโน้มใบลงมาให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสและถ่ายรูปอย่างใกล้ชิด



อุโมงค์ใบเมเปิ้ล (Momiji Tunnel)

จุดถ่ายภาพยอดนิยมของช่างภาพในฤดูใบไม้เปลี่ยนสีที่ Fuji-Kawaguchiko ในวันที่ท้องฟ้าเปิด อากาศแจ่มใส ที่นี่สามารถถ่ายภาพใบเมเปิ้ลสีแดง ตัดกับสีฟ้าของท้องฟ้าและสีน้ำของทะเลสาบคาวากุจิโกะ แถมยังมีภูเขาฟูจิเป็นฉากหลังอีก 


 

เจดีย์แดงชูเรโตะ (Chureito Pagoda)

หรือเรียกสั้นๆ ว่า เจดีย์แดง (Chureito Pagoda) เป็นเจดีย์ห้าชั้นบนเนินเขาที่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 750 เมตร ทำให้เราสามารถมองเห็นเมืองฟูจิโยชิดะและภูเขาไฟฟูจิในระยะไกลได้อย่างชัดเจนและงดงาม เจดีย์แห่งนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของศาลเจ้าอาราคุระเซนเงน (ArakuraSengen Shrine) ซึ่งสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2506 ในฐานะอนุสรณ์สถานแห่งสันติภาพ ถือเป็นแหล่งบ่มเพาะวัฒนธรรมและการสืบทอดขนมธรรมเนียมประเพณีของชาวญี่ปุ่น ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุเสาวรีย์สำหรับการระลึกถึงวีรชนผู้เสียชีวิตในสงครามของเมืองฟูจิโยชิดะในช่วงเดือนพฤศจิกายน ด้านหลังของเจดีย์แดงจะมีต้นไม้ที่แข่งกันเปลี่ยนสีจนกลายเป็นสีแดงสุดลูกหูลูกตา เนื่องจากเป็นจุดถ่ายรูปยอดนิยมจึงทำให้มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาที่นี่อย่างคับคั่ง



เทศกาลประดับไฟในฤดูใบไม้เปลี่ยนสี (Light Up Autumn Leaves Festival)

ใบไม้เปลี่ยนสีไม่ได้มีเสน่ห์เฉพาะกลางวันเท่านั้น ทว่าในตอนกลางคืนของทะเลสาบคาวากุชิโกะ จะมีเทศกาลประดับไฟให้แก่ต้นเมเปิ้ลในส่วนของทางเลียบแม่น้ำสายนาชิกาว่า (Nashikawa) เป็นอุโมงค์ต้นเมเปิ้ลให้เราได้เที่ยวชมและถ่ายภาพอย่างเพลิดเพลิน หากมองลงไปที่แม่น้ำแล้ว ท่านจะได้พบว่ามีใบเมเปิ้ลหลากหลายสีสันที่ร่วงหล่นจากต้นกองรวมเป็นพรมทอดยาวกว่า 150 เมตร แสงไฟที่ถูกประดับจะช่วยขับสีแดงสดของใบเมเปิ้ลให้ดูโดดเด่นท่ามกลางท้องฟ้ายามค่ำคืนได้อีกด้วย ท่านสามารถชมความงามของเทศกาลประดับไฟในฤดูใบไม้เปลี่ยนสีได้ตั้งตั้งช่วงพระอาทิตย์ตกดิน จนถึง 22 นาฬิกา ตลอดงานเทศกาลค่ะ



จังหวัดยามานาชิ(Yamanashi)

เป็นจังหวัดหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่บริเวณภาคชูบุของประเทศญี่ปุ่นมีเมืองหลวงอยู่ที่เมืองโคฟุ ยามานาชิเป็นจังหวัดที่มีภูเขาปิดล้อม โดยเฉพาะภูเขาฟูจิซึ่งเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวกันมาก มีสินค้าขึ้นชื่อคือไวน์ ที่เมืองโคฟุมีชื่อเสียงมากในอุตสาหกรรมอัญมณีและมีทิวทัศน์ธรรมชาติอันงดงาม จังหวัดยามานาชิได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่มีประชากรน้อยที่สุดและมีความล่าช้าในเรื่องของการพัฒนาด้านเทคโนโลยีมากที่สุดในประเทศ แต่ด้วยเหตุผลดังกล่าวส่งผลให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสกับความงดงามและความอลังการของธรรมชาติที่ได้สรรค์สร้างภูเขาไฟฟูจิอย่างแท้จริง ในจังหวัดยามานาชิยังมีบ่อน้ำแร่มากมาย โดยเฉพาะบ่อน้ำแร่บนยอดเขาที่สามารถชมวิวมุมสูงของจังหวัดยามานาชิได้ ในส่วนผลผลิตทางการเกษตรของจังหวัดที่มีชื่อเสียงของจังหวัดยามานาชิคือองุ่นพันธุ์ดีที่ใช้สำหรับผลิตไวน์เลิศรส ยามานาชิจึงเป็นที่หนึ่งที่ควรมาลิ้มรสประสบการณ์แปลกใหม่ พร้อมสัมผัสความงดงามของธรรมชาติแบบดั้งเดิมได้ที่นี่


ออกจากที่พักเวลา 5:00 น. วันนี้เราจะถ่ายภาพกันตั้งแต่แสงเช้า จนถึงแสงเย็น โดยมีไฮไลท์ของวันนี้ คือ มุมที่ Fumotoppara Camp, ภาพฟาร์มวัว…..ทุ่งหญ้าสีทอง….โดยมีภูเขาไฟฟูจิ (Mt. Fuji) เป็นฉากหลัง, ภาพใบไม้เปลี่ยนสีที่น้ำตกชิเรียวโตะ(Shiraito Waterfall), ถ่ายรถไฟชินคันเซนโดยมีภูเขาไฟภูจิเป็นฉากหลัง,และถ่ายมุมลำธารคู่กับภูเขาไฟฟูจิ หลังจากเก็บภาพแสงเย็นเรียบร้อยแล้ว รับประทานอาหารเย็น และเข้าที่พัก พักผ่อนตามอัธยาศัย


Fumotoppara Camp

เป็นแคมป์ไซส์ที่กว้างใหญ่ท่ามกลางธรรมชาติอันเงียบสงบ Fumotoppara Camp จัดว่าเป็นที่ตั้งแคมป์ยอดนิยมของทั้งนักท่องเที่ยวและชาวญี่ปุ่นเอง ซึ่งสิ่งแรกที่จะได้พบคือวิวของภูเขาไฟฟูจิสุดอลังการ กลางคืนท่านจะได้พบกับดวงดาวระยิบระดับเต็มท้องฟ้า กระทั่งในตอนเช้าที่จะได้เห็นไอหมอกที่ไหลเอื่อยตลอดทิวสนต้นใหญ่ วิวของทุ่งกางเต็นท์สีเหลืองอร่ามสุดสายตาที่ฉาบไปด้วยเกล็ดน้ำแข็งยามเช้าที่สะท้อนแสงอาทิตย์เป็นภาพที่สวยงามไม่น้อย


น้ำตกชิเรียวโตะ(Shiraito Waterfall)

เป็นน้ำตกตั้งอยู่ที่เมืองฟูจิโนมิยะ จังหวัดชิซูโอกะ ใกล้กับภูเขาไฟฟูจิ เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติฟูจิฮาโกเนอิซุและได้รับการอนุรักษ์ในฐานะอนุสรณ์สถานแห่งชาติ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2479 น้ำตกชิราอิโตะถือเป็นน้ำตกที่ศักดิ์สิทธิ์ มีศาลเจ้าอาซามะตั้งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงยังมีน้ำตกโอโตโดเมะซึ่งใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 5 นาทีน้ำตกชิราอิโตะมีความสูง 3 เมตรและมีความยาว 70 เมตร ด้านบนของน้ำตกเป็นทางลาดชันของภูเขาไฟที่กักเก็บน้ำไว้ใต้ดินแล้วไหลออกมาเป็นน้ำตกคล้ายฝนที่ตกลงมาอย่างสม่ำเสมอชื่อของน้ำตก Shiraito No Taki มีความหมายว่า น้ำตกด้ายสีขาว ซึ่งเป็นการอธิบายลักษณะของน้ำตกที่ไหลลงมาเป็นเส้นสายคล้ายเส้นผ้าม่านสีขาว ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงซึ่งใบไม้จะเปลี่ยนสีเป็นสีจะยิ่งทำให้น้ำตกที่มีเส้นสายม่านสีขาวตัดกับสีแดงของใบไม้เป็นทัศนียภาพที่แปลกและสวยงามไม่แพ้ที่อื่นเลยค่ะน้ำตกชิระอิโตะ ได้รับการจัดอันดับให้อยู่ใน 1 ใน 100 น้ำตกในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจัดทำโดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติแห่งประเทศญี่ปุ่น ในปีพ.ศ. 2533 น้ำตกชิราอิโตะได้รับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกพร้อมกันกับภูเขาไฟฟูจิ อุทยานแห่งชาติฟูจิฮาโกเนอิซุ และทะเลสาบฟูจิทั้งห้าภายใต้ชื่อ "ฟูจิซัง สถานที่ศักดิ์สิทธิ์และแหล่งที่มาของแรงบันดาลใจทางศิลปะ" เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2556 ที่ผ่านมา



รถไฟชินกันเซ็ง (Shinkansen)

เป็นชื่อเรียกเครือข่ายรถไฟความเร็วสูงในประเทศญี่ปุ่น สายแรกเปิดใช้งานในปี ค.ศ. 1964 รถไฟชิงกันเซ็งให้บริการแก่ผู้โดยสารด้วยความเร็วสูงสุด 320 กม./ชั่วโมง และล่าสุดยังทำลายสถิติรถไฟที่วิ่งเร็วที่สุดในโลกด้วยความเร็วถึง 603 กม./ชั่วโมง ในการทดสอบขบวนแม็กเลฟ เมื่อเดือนเมษายน ค.ศ. 2015


ออกจากที่พักเวลา 5:30 น. เพื่อเก็บภาพแสงเช้าที่ชายหาดมิโฮ (Miho Beach), รถไฟShinkansenข้ามสะพานกับฟูจิ-ไร่ชาชิซูโอกะ (Shizuoka Tea Field), จุดถ่ายภาพนิฮอนไดรา (Nihondaira View Point)

หลังจากเก็บภาพแสงเย็นเรียบร้อยแล้ว รับประทานอาหารเย็น และเข้าที่พัก พักผ่อนตามอัธยาศัย

 


ชายหาดมิโฮ (Miho Beach)

เป็นคาบสมุทรที่ยื่นออกไปในอ่าวซุรุกะ(Suruga Ba) จากเมืองชิซุโอกะ นับว่าเป็นชายหาดยอดนิยมเลยทีเดียว จุดนี้ถือเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวทุกคนต้องมาเที่ยวชมเพราะชายหาดที่นี่จะมีต้นสนขึ้นเรียงรายตลอดทาง โดยต้นสนจำนวนมากที่อยู่ริมชายหาดมีอายุมากกว่า 650 ปี มีตำนานเกี่ยวกับต้นสนและชาวประมงที่พบเสื้อคลุมของนางฟ้าแขวนอยู่บนกิ่งไม้ เกิดเป็นความสวยงามของจุดหนึ่งบนชายหาด ไม่เพียงแต่ความสวยงามของชายหาดที่นี่เท่านั้น ที่นี่ยังมีชื่อเสียงที่โด่งดังมากจากการเป็นสถานที่ชมวิวภูเขาไฟฟูจิร่วมกับต้นสนที่ทอดยาวตลอด 3 กิโลเมตรของแนวชายหาด พื้นทรายจะเป็นหินก้อนเล็กๆ ไม่ใช่ทรายละเอียดแต่ถึงอย่างนั้นท่านสามารถเช่าจักรยานเพื่อขี่ชมชายหาดที่นี่ได้เช่นกันค่ะ


จุดถ่ายภาพนิฮอนไดระ(Nihondaira View Point)

พื้นที่บนเนินเขาซึ่งมีความสูง 307 เมตรจากระดับน้ำทะเล ซึ่งเป็นศูนย์กลางของเมืองชิซุโอกะ เนินเขานิฮอนไดระแห่งนี้ได้รับเลือกให้เป็นสถานทีท่องเที่ยวอันดับหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น ที่นี่ท่านจะได้เพลิดเพลินกับวิวพาโนราม่าแบบ 360 องศาด้วยทิวทัศน์ภูเขาไฟฟูจิเหนือไร่ชา ชายฝั่งมิโฮะโนะมัทสึบาระที่มีความยาวกว่าง 7 กิโลเมตรซึ่งเต็มไปด้วยต้นสนกว่า 30,000 ต้น และทัศนียภาพกว้างขวางงดงามของอุทยานแห่งชาติมินามิแอลป์ ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงนี้ท่านจะได้เห็นสีแดงของใบไม้สุดสายตา จึงไม่แปลกหากว่าที่นี่จะเป็นจุดถ่ายรูปยอดนิยมของนักท่องเที่ยวรวมถึงคนญี่ปุ่นเอง


ออกจากที่พักเวลา 6:30 น. เดินทางไปถ่ายแสงเช้าที่ไร่ชา(Shizuoka Tea Field) กับ ภูเขาไฟฟูจิ (Mt. Fuji), มินามิแอลป์ อะปูโตะ ไลน์ จุดถ่ายรถไฟข้ามสะพานที่กับใบไม้เปลี่ยนสีที่  และหลังรับประทานอาหารกลาวันเรียบร้อยแล้วช่วงบ่ายเป็นช่วงเก็บตกมุมต่างๆเพิ่มเติม

หลังจากเก็บภาพแสงเย็นเรียบร้อยแล้ว รับประทานอาหารเย็น และเข้าที่พัก พักผ่อนตามอัธยาศัย


ไร่ชาชิซูโอกะ (Shizuoka Tea Field)

จังหวัดชิซุโอกะเรียกได้ว่าเป็นดินแดนแห่งชา เพราะที่นี่มีพื้นที่ไร่ชามากกว่า 40% ของพื้นที่ไร่ชาทั้งหมดในประเทศ ชาวญี่ปุ่นมีความภาคภูมิใจในชาของพวกเขาเป็นอย่างมากและแทบจะไม่ดื่มชาจากที่อื่นเลย ซึ่งชาที่พวกเขาปลูกนั้นจะเรียกว่า "มัทฉะ" (Matcha) อันเป็นรสชาติที่ได้รับความนิยมตั้งแต่การเป็นเครื่องดื่มจนถึงการปรุงรสเป็นอาหารหวานผลิตขึ้นมาจากชาเขียวหรือที่เรียกว่า "เรียวคุฉะ" (Ryokucha) ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงไร่ชาที่นี่จะเต็มไปด้วยสีเขียวชอุ่มงดงามราวกับปูด้วยพรมชาเขียว ดังนั้นหากมาที่นี่แล้วต้องไม่พลาดที่จะเข้าไปชมไร่ชาต่างๆ และดื่มด่ำกับรสชาติชาเขียวสดๆ ที่เพิ่งเด็ดจากต้นกันดูซักครั้ง ซึ่งไร่ชาในจังหวัดชิซุโอกะที่ควรค่าแก่การไปเยี่ยมชมมีดังนี้


มินามิแอลป์ อะปูโตะ ไลน์ 

เป็นเส้นทางรถไฟที่แล่นผ่านหุบเขาโอคุโออิในจังหวัดชิซูโอกะ ขึ้นไปยังหน้าผาสูงชัน จากสถานีเซ็นซูไปยังสถานีอิงาวะผ่านหุบเขาโอคุโออิในจังหวัดชิซึโอกะ นับว่าเป็นหนึ่งในทางรถไฟสะพานเหล็กยอดนิยมของนักท่องเที่ยว 


หลังจากเก็บภาพแสงเย็นเรียบร้อยแล้ว รับประทานอาหารเย็น และเข้าที่พัก พักผ่อนตามอัธยาศัย


ช่วงเช้าของวันสุดท้ายหลังจากถ่ายแสงเช้าเรียบร้อยแล้ว เดินทางไปช็อปปิ้ง Gotenba Outlet ก่อนเดินทางไปที่สนามบินNarita International Airport เพื่อเดินทางกลับประเทศไทย ด้วยสายการบิน Thai Airways International เที่ยวบินที่TG677 (Direct Flight) เวลาเครื่องออก 17:30 น. ระยะเวลาเดินทาง 7 ชม. และถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพโดยสวัสดิภาพ เวลาท้องถิ่น 22.30 น. ของวันเดียวกัน


รายละเอียดค่าบริการ และ การชำระเงิน

ราคาปกติ 0 พิเศษ!!! สำหรับลูกค้าเก่า Foto Journey ราคาเพียง 0 บาท

ประมาณการอัตราค่าบริการ: TBC บาท/ท่าน
(ราคานี้ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบินระหว่างประเทศ, ค่าอาหารกลางวัน และ เย็น)
* ราคาที่ระบุ เป็นราคาประมาณการเท่านั้น อาจปรับเปลี่ยนตามช่วงเวลา, ที่พัก, อาหาร, พาหนะ, จำนวนลูกค้า และเงื่อนไขอื่นๆ ที่ทางสมาชิกต้องการปรับเปลี่ยน


เงื่อนไขการจองและการชำระเงิน

ณ วันที่จอง 0 บาท

***โดยบริษัทถือลำดับการชำระเงิน เป็นสำคัญ ในการยืนยันสิทธิ์การเดินทาง สำหรับลูกค้าที่เดินทางท่านเดียว ทางบริษัทจะจัดหารูมเมทให้โดยไม่จำเป็นต้องชำระค่าใช้จ่ายสำหรับพักเดี่ยวแต่อย่างใด***

INCLUSION

ค่าบริการนี้รวม:

- ค่าที่พักตลอดการเดินทาง (พักห้องคู่)

- ค่าอาหารเช้าทุกมื้อ

- ค่าเข้าเยี่ยมชมสถานที่ต่างๆที่ระบุไว้ในโปรแกรม

- ค่ายานพาหนะ, น้ำมัน, ที่จอดรถ, ทางด่วนและอื่นๆที่ใช้ในการเดินทาง

- บริการถ่ายภาพและสอนการถ่ายภาพตลอดการเดินทาง

- ค่าประกันภัยการเดินทางอุบัติเหตุ วงเงินรวมสูงสุด 2,000,000 บาท เงื่อนไขตามรายละเอียดในกรมธรรม์

EXCLUSION

ค่าบริการนี้ไม่รวม:

- ตั๋วเครื่องบินระหว่างประเทศ

- ค่าอาหารกลางวัน และเย็น

- ค่าใช้จ่ายส่วนตัวอื่นๆ นอกเหนือรายการ เช่น ค่าเครื่องดื่ม มินิบาร์ ค่าโทรศัพท์ ค่าซักรีด เป็นต้น

- ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่ได้คาดการณ์


การชำระเงินค่าเดินทาง


กสิกรไทย
ออมทรัพย์ เซ็นทรัลพลาซ่า แกรนด์ พระราม9
เลขที่บัญชี
037-2-57628-6
ชื่อบัญชี
บริษัท โฟโต้ เจอร์นี่ จำกัด

ไทยพาณิชย์
ออมทรัพย์ เซ็นทรัลพลาซ่า แกรนด์ พระราม9
เลขที่บัญชี
408-825346-9
ชื่อบัญชี
บริษัท โฟโต้ เจอร์นี่ จำกัด

หลังจากโอนเงิน

กรุณาส่งใบโอนเงินไปที่

Line: FotoJourney หรือ

Inbox Facebook: FotoJourneyTH

Important Note

ข้อมูลและลักษณะของทริปที่สำคัญ

- ทริปนี้เป็นทริปที่เป็นลักษณะ Photo Trip จะเน้นถ่ายรูปแสงเช้า แสงเย็น เป็นหลัก ดังนั้น แผนเดินทางอาจจะมีการปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสม เพื่อให้ทุกท่านได้ถ่ายภาพตามให้มากที่สุด

เงื่อนไขการยกเลิกทริป

กรณีที่ลูกค้าไม่สะดวกเดินทางและมีความจำเป็นต้องยกเลิกการเดินทาง และมีการยกเลิกการเดินทาง

ยกเลิกก่อนวันเดินทาง 90 วัน หัก 20,000 บาท

ยกเลิกก่อนวันเดินทาง 45-90 วัน หัก 30,000บาท

ยกเลิกก่อนวันเดินทาง 15-45 วัน หัก 40,000 บาท

ยกเลิกก่อนวันเดินทาง 15 วัน ไม่สามารถคืนเงินได้ยกเว้นเงินรีฟันด์ตั๋วเครื่องบินให้ลูกค้าตามเงื่อนไขของสายการบินนั้นๆ

หมายเหตุ : ในกรณีที่ค่าทริปรวมตั๋วเครื่องบิน บริษัทจะทำการคืนเงินรีฟันด์ตั๋วเครื่องบินให้ลูกค้าตามเงื่อนไขของสายการบินนั้นๆ

ในกรณีที่ประเทศที่ไปต้องมีการของวีซ่า การยกเลิกทริปเนื่องจากลูกค้ายื่นวีซ่าไม่ผ่านหลังจากชำระมัดจำทริปแล้วให้ใช้เงื่อนไขเดียวกับการยกเลิกทริปโดยลูกค้า แนะนำให้ลูกค้าหลังจากจองทริปไปแล้วควรไปขอวีซ่าแต่เนิ่นๆ เพื่อที่จะเมื่อเกิดปัญหาเรื่องวีซ่าจะสามารถแก้ไขปัญหาได้ง่ายกว่าการขอวีซ่าแบบกระชั้นชิด


 


ความรับผิดชอบ และ เงื่อนไขอื่นๆ

ในกรณีที่ทริปต้องถูกยกเลิกการเดินทาง ด้วยเหตุปัจจัยต่างๆ เช่น เกิดการก่อการร้าย เกิดความไม่สงบ เกิดการประท้วง เกิดจากภัยธรรมชาติทำให้ไม่สามารถเดินทางได้ หรือเหตุอื่นๆที่ถือว่าเป็นเหตุสุดวิสัย โดยถือว่าการตัดสินใจยกเลิกการเดินทางเป็นสิทธิ์ขาดของทางบริษัท ทางบริษัทยินดีที่จะคืนค่าทริปที่ลูกค้าจ่ายมาทั้งหมด ยกเว้นค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าที่พัก หรืออื่นๆที่มีการดำเนินการชำระเงินไปแล้ว

บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบใดๆ ที่เกิดจากความล่าช้าของสายการบิน เหตุการณ์ทางการเมือง การปฏิเสธการเข้าเมือง การโดนกักตัว หรือถูกส่งตัวกลับ ความเสียหายหรือสูญหายของกระเป๋าเดินทาง กระเป๋าใบเล็ก หรือของมีค่าส่วนตัวของท่านระหว่างการเดินทาง โดยสิทธิประโยชน์ของท่านจะได้รับตามกรมธรรม์ประกันการเดินทางที่ระบุความรับผิดชอบไว้เท่านั้น ทั้งนี้ บริษัทฯ จะยืดถือผลประโยชน์ของลูกค้าเป็นสําคัญ แต่ไม่สามารถคืนเงินค่าทริปให้ท่านได้

และหากเกิดเหตุสุดวิสัยดังต่อไปนี้ ทางบริษัทไม่อาจรับผิดชอบต่อความเสียหายต่างๆ ที่อยู่เหนือการควบคุมของเจ้าหน้าที่บริษัทฯ อาทิ

o การนัดหยุดงาน การจลาจล เปลี่ยนแปลงกำหนดเวลาในตารางบิน ภัยธรรมชาติ ฯลฯ หรือค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่เกิดขึ้น ทั้งทางตรง หรือทางอ้อม เช่น การเจ็บป่วย การถูกทำร้าย การสูญหาย ความล่าช้า หรือ จากอุบัติเหตุต่างๆ ฯลฯ

o การตอบปฏิเสธการเข้าและออกเมืองของเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าหรือออกเมือง อันเนื่องมาจากมีสิ่งผิดกฏหมาย หรือเอกสารการเดินทางไม่ถูกต้อง หรือการถูกปฏิเสธในกรณีอื่นๆ

o  การเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากสายการบินเช่น การยกเลิกเที่ยวบิน / เครื่องดีเลย์ / กระเป๋าสัมภาระมาไม่ครบ / การขึ้นราคาค่าตั๋วเครื่องบิน เป็นต้น

o บริษัทฯ มีสิทธ์ที่จะเปลี่ยนแปลงรายละเอียดบางประการในทัวร์นี้ เมื่อเกิดเหตุสุดวิสัยจนไม่อาจแก้ไขได้

o หากท่านถอนตัวก่อนรายการท่องเที่ยวจะสิ้นสุดลง ทางบริษัทฯ จะถือว่าท่านสละสิทธิ์และจะไม่รับผิดชอบค่าบริการที่ ท่านได้ชำระไว้แล้ว ไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น

o บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบต่อการห้ามออกนอกประเทศ หรือ ห้ามเข้าประเทศ อันเนื่องมาจากมีสิ่งผิดกฎหมาย หรือ เอกสารเดินทางไม่ถูกต้อง หรือ การถูกปฏิเสธในกรณีอื่น

o กรณีเกิดความผิดพลาดจากตัวแทน หรือ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จนมีการยกเลิก ล่าช้า เปลี่ยนแปลง การบริการจาก สายการบิน บริษัทขนส่ง หรือ หน่วยงานที่ให้บริการ บริษัทฯ จะดำเนินโดยสุดความสามารถที่จะจัดบริการทัวร์อื่น ทดแทนให้ แต่จะไม่คืนเงินให้ สำหรับค่าบริการนั้นๆ

o มัคคุเทศก์ พนักงาน และตัวแทนของบริษัท ฯ ไม่มีสิทธิ์ในการให้คำสัญญาใดๆ ทั้งสิ้นแทนบริษัทฯ นอกจากมีเอกสาร ลงนามโดยผู้มีอำนาจของ

บริษัทฯ กำกับเท่านั้น