“สวรรค์บนดิน ดอยหลวงเชียงดาว และดอยแม่ตะมาน”

Start - End
18 ธ.ค. - 20 ธ.ค. 2563
Group Size
Max 14  -  Min 8
Season
Winter

Province
เชียงใหม่
Route
Accommodation
Meal
Transportation
Physical Rating
Journey Type
Photo Trip
Journey Theme
Landscape, Trekking, Wildlife, Animal, Nature, Photo Trip

จำนวนวัน
3
(ลางาน 1 วัน)
ราคา
฿7,100
ลูกค้าเก่า 6,500
จำนวนวัน
3
(ลางาน 1 วัน)

ราคา
฿7,100
ลูกค้าเก่า ฿6,500

Foto Journey..ยินดีพาท่านไปชมเมฆ และทะเลหมอก ความงามตามธรรมชาติที่ทำให้ "ดอยหลวงเชียงดาว" ได้ชื่อว่าเป็น สวรรค์บนดิน ในเมืองไทย ดอยหรือยอดเขาที่มีความสูงเป็นอันดับ 3 ของประเทศ สูงถึง 2,275 เมตร จากระดับน้ำทะเล ชื่อนั้นมีความหมายแปลได้ว่า “ภูเขาใหญ่โตที่สูงถึงดวงดาว” ถือเป็นหนึ่งในยอดเขาที่น่าเดินที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย

เหมาะกับการ ไปชมพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกยามเช้า และยอดดอยสูงสุดของดอยหลวงเชียงดาว เหมาะสำหรับไปชมพระอาทิตย์ตก รวมถึงนอนชมดาวในเวลาค่ำคืนอีกด้วย

เนื่องจาก ดอยหลวงเชียงดาว เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าที่หายากและใกล้สูญพันธุ์ ท่านสามารถเฝ้าดู "กวางผา" หรือที่ชาวบ้านเรียก กันว่า ”ม้าเทวดา”

นอกจากจะเต็มไปด้วยผืนป่าและแมกไม้นานาพันธุ์แล้ว ในช่วงเดือนมกราที่เราจะไปนั้นยังเป็นช่วงที่แสนพิเศษที่ที่คนรักธรรมชาติไม่ควรพลาด ดอกไม้หายากหลากพันธุ์จะแข่งกันผลิบาน อาทิเช่น ชมพูพิมพ์ใจ, ฟองหินเหลือง, เหยื่อเลียงผา, แสงแดง, ดอกหญ้าลาย, ฟ้าคราม, หรีดเชียงดาว
และที่สำคัญเราจะพาทุกท่านไปถ่ายรูปในหลายประสบการณ์ หลากเทคนิค โดยมีผู้เชียวชาญด้านการภาพถ่าย (Photo Specialist) คอยแนะนำเทคนิค, มุมมอง รวมถึงการให้คำปรึกษาอย่างเป็นกันเอง 

Highlight

  • ถ่ายวิวยอดเขาเล็กใหญ่ โดยรอบปกคลุมด้วยหมอกจางๆ ทั้งดอยหลวงเชียงดาว, ดอยพีระมิด, ดอยสามพี่น้อง สูง 2,225 / 2,175 / 2,150 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ตามลำดับ

  • ดอยแม่ตะมาน ทิวเขาที่มีฉากหลังเป็นดอยหลวงเชียงดาว และดอกนางพญาเสือโคร่งสีชมพูบานสะพรั่ง

  • กวางผา หรือที่ชาวบ้านเรียก กันว่า ”ม้าเทวดา” เพราะ ดอยหลวงเชียงดาว เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าที่หายากและใกล้สูญพันธุ์

  • ถ่ายดาว เมื่อธรรมชาติเป็นใจ โดยมีผู้เชียวชาญด้านการภาพถ่าย (Photo Specialist) คอยแนะนำเทคนิค, มุมมอง รวมถึงการให้คำปรึกษาอย่างเป็นกันเอง 

  • แช่บ่อน้ำพุร้อนส่วนตัว  จากน้ำพุร้อนกลางหุบเขา ท่ามกลางธรรมชาติ

  • ดอกไม้ ที่คนรักธรรมชาติไม่ควรพลาด ในช่วงเดือนมกรา อาทิเช่น ชมพูพิมพ์ใจ, ฟองหินเหลือง, เหยื่อเลียงผา, แสงแดง, ดอกหญ้าลาย, ฟ้าคราม, หรีดเชียงดาว

  • ชมเมฆ และทะเลหมอก ความงามตามธรรมชาติที่ทำให้ ดอยหลวงเชียงดาว ได้ชื่อว่าเป็น สวรรค์บนดิน ในเมืองไทย

กำหนดการเดินทาง:

18 ธ.ค. - 20 ธ.ค. 2563 (3 วัน ลางาน 1 วัน)

รายละเอียดการบิน:

รายละเอียดการบินภายในประเทศ

ขาไป
Don Mueang International Airport, Bangkok (DMK)
Chiang Mai Airport (CNX)
18 ธันวาคม 2563
05:10 – 06:25 น.
(ระยะเวลาเดินทาง 1 ชม. 15 นาที. )
Flight FD3416 Operate by Airasia
ขากลับ
Chiang Mai Airport (CNX)
Don Mueang International Airport, Bangkok (DMK)
20 ธันวาคม 2563
18:45 – 20:00 น.
(ระยะเวลาเดินทาง 1 ชม. 15 นาที. )
Flight FD3440 Operate by Airasia

***ออกตั๋วหลังจากได้รับยืนยันการออกทริป จากทางบริษัทฯเท่านั้น***

Itinerary

08.30 น.     นัดพบกันที่หน้าร้าน Starbuck ภายในสนามบินเชียงใหม่ เพื่อขึ้นรถตู้ไปยังจุดเริ่มเดินเท้า ที่หน่วยพิทักษ์ป่าขุนห้วยแม่กอก (เด่นหญ้าขัด) ใช้เวลาเดินทางโดยรถ 1.30 ชั่วโมง

10.00 น.     เริ่มออกเดินเท้า จาก หน่วยพิทักษ์ป่าขุนห้วยแม่กอก เส้นทางนี้เรียกว่า "เส้นทางเด่นหญ้าขัด" จุดเริ่มเดินอยู่ที่    หน่วยพิทักษ์ป่าฯ ณ. จุดนี้ทางทีมงาน เตรียมและแจกน้ำดื่มให้ลูกค้า เพื่อติดตัวไว้ดื่มระหว่างทาง พร้อม กับอาหารกลางวัน เส้นทาง เดินประมาณ 8.5  กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 4-5 ชั่วโมง

15.00 น.      ถึงที่พักอ่างสลุง เข้าเต๊นท์ที่พัก พักผ่อนตามอัธยาศัย 

16.00 น.      ขึ้นยอดดอยหลวงเชียงดาว จุดสูงสุดเพื่อชมพระอาทิตย์ตก ถ่ายรูป ชมดอยสามพี่น้อง ดอยปิระมิด 

04.30 น.      ตื่นนอน สำหรับท่านที่อยากชมพระอาทิตย์ขึ้น  ทะเลหมอก ชมดอยหลวงเชียงดาว ดอกไม้ชมวิว ณ. กิ่วลม ตามความเหมาะสมในวันนั้นๆ

08.30 น.      รับประทานอาหารเช้า

09:30 น.      เริ่มเดินทางกลับไปยังอุทยาน โดยใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 2 ชั่วโมงกว่าๆ

12.00 น.      ถึงอุทยาน รับประทานอาหารกลางวันแล้วพักผ่อนตามอัธยาศัย

13:30 น.      เตรียมตัวไปออกเดินทางไปดอยแม่ตะมาน

14:00 น.      ถึงลานกางเต็นท์แม่ตะมาน

16:00 น.      ถ่ายแสงเย็น ณ จุดชมวิว แม่ตะมาน

19.00 น.      รับประทานอาหารเย็น พักผ่อน ดู และ ถ่ายดาว

05:00 น.      ตื่นนอน ขึ้นชมวิว ตามอัธยาศัย

07.00 น.      รับประทานอาหารเช้า

09:00น.       เก็บสัมภาระ เตรียมตัวเดินทางกลับ

11:00 น.      แช่บ่อน้ำร้อน โดยน้ำร้อนมาจากบ่อน้ำพุร้อนกลางเขา

12:00         รับประทานอาหารกลางวัน แล้วเดินทางไปถ้ำดอยหลวง

15:00 น.      ออกเดินทางกลับตัวเมืองเชียงใหม่

17:30 น.      ถึงสนามบินเชียงใหม่ เดินทางกลับโดยสวัสดิภาพ


อุปกรณ์ที่ควรเตรียมไป
1. ถุงนอน (หากต้องการใช้ของส่วนตัว แต่ทางทีมงานได้จัดหาถุงนอนไว้ให้สำหรับผู้ที่ไม่ได้เตรียมไป)
2. ไฟฉายคาดหัวสำหรับตอนไปดูพระอาทิตย์ขึ้นและตก มีดพก 
3. เสื้อกันหนาว ถุงมือ(ถุงมือเดินป่า) ถุงเท้า หมวก 
4. รองเท้าแตะ รองเท้าผ้าใบ 
5. ทิชชูเปียก หน้ากากอนามัย เจลล้างมือ สเปรย์แอลกอฮอล์
6. อาหารที่ชื่นชมส่วนตัว เช่น มาม่า ขนมปัง น้ำ 
7. Power bank
8. ลูกหาบจำกัดน้ำหนักได้คนละ 5 กก หากน้ำหนักเกินที่กำหนดสามารถจ่ายเพิ่มได้ กก. ละ 90 บาท ต่อสามวัน

"ข้อมูล" ดอยหลวงเชียงดาว (Doi Luang Chiang Dao) 
เป็นดอยหรือยอดเขาที่มีความสูงเป็นอันดับ 3 ของประเทศ สูงถึง 2,275 เมตร จากระดับน้ำทะเล (รองจากดอยอินทนนท์ที่ความสูง 2,565 เมตร และดอยฟ้าห่มปกที่ 2,288 เมตร) ตั้งอยู่ในอำเภอเชียงดาว อยู่ทางทิศเหนือของเชียงใหม่ ไปตามเส้นทางหลวงสายเชียงใหม่-ฝางประมาณหลักกิโลเมตรที่ 72  
ในสมัยโบราณถูกเรียกว่า “ดอยอ่างสลุง” 
ซึ่ง ชาวเชียงใหม่เชื่อกันตามตำนานเมืองเชียงใหม่ว่าเป็นสถานที่ที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จมาพร้อม พระอรหันต์ 8 องค์ทรงลงสรงน้ำในสลุงทองคำหรือบริเวณอ่างสลุงนั่นเอง บางคนเรียกดอยแห่งนี้ว่า “ ดอยหลวง ” 

"ที่มา" ของชื่อดอยหลวงเชียงดาว  
ได้มาจากความสูงใหญ่ของดอย คำว่า ”หลวง” ในภาษาเหนือ แปลว่า ”ใหญ่” ส่วนคำว่า “เชียงดาว” นั้น ก็เพี้ยนมาจากคำว่า ”เพียงดาว” ภูเขาที่ชื่อมีความหมายแปลได้ว่า “ภูเขาใหญ่โตที่สูงถึงดวงดาว” ถือเป็นหนึ่งในยอดเขาที่น่าเดินที่สุดของประเทศไทย
ในปัจจุบันประกอบด้วยยอดเขาสำคัญ คือยอดสูงสุดดอยหลวงเชียงดาว สูงจากระดับน้ำทะเล 2,225 เมตร และยังมียอดเขาอีก หลายยอดที่มีความสูงโดดเด่น สามารถชมทิวทัศน์ได้แตกต่างกันออกไป เช่น ดอยกิ่วลมสูงจากระดับน้ำทะเล 2,140 เมตร และดอยเหนือหรือดอยพีระมิดสูงจากระดับน้ำทะเล 2,175 เมตร ดอยหนอกสูงจากระดับน้ำทะเล 2,000 เมตร และดอยสามพี่น้อง สูงจากระดับน้ำทะเล 2,150 เมตร ยอดเขา ที่อนุญาตให้ขึ้นไปท่องเที่ยวทั้งหมด 2 ยอดด้วยกัน คือ ยอดดอยกิ่วลมซึ่งเหมาะกับการ ไปชมพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกยามเช้า และยอดดอยสูงสุดของดอยหลวงเชียงดาว เหมาะสำหรับไปชมพระอาทิตย์ตก 

 

"ช่วงเวลา" ท่องเที่ยว
อุณหภูมิตามปกติจะถูกปกคลุมด้วยเมฆหมอกตลอดปีโดยเฉพาะในฤดูหนาวและฤดูฝน อากาศหนาวเย็นตลอดฤดูหนาวและฤดูฝนอากาศชุ่มชื้นมาก ทางเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาวเปิดให้ท่องเที่ยวได้เป็นเวลา 5 เดือนตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. ถึง 31 มี.ค. ของทุกปี 


"ลักษณะ" ของดอยหลวงเชียงดาว 
เป็นภูเขาหินปูนล้วนซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาถนนธงชัยเป็นภูเขาหินปูนที่เกิดขึ้นในยุคเพอร์เมียน มีอายุ ระหว่าง 230-250 ล้านปี เป็นหมู่หินราชบุรีของไทย ซึ่งเกิดจากการทับถมของตะกอนทะเล และซากสัตว์ที่มีหินปูน สันนิษฐานว่า พื้นที่ในบริเวณนี้ในอดีตเคยเป็นท้องทะเลมาก่อนที่การตกตะกอนทับถมของซากสิ่งมีชีวิต เช่น ปะการังและหอย  เป็นแหล่งนิยมสำหรับการดูนก มีนกอาศัยอยู่ที่นี่มากกว่า 300 ชนิด รวมถึงสัตว์ป่าชนิดอื่นที่หายาก เช่น ผีเสื้อสมิงเชียงดาว, ไก่ฟ้าหางลายขวาง, กวางผา รวมถึงเลียงผา ซึ่งเป็นสัตว์ป่าสงวน เป็นต้น

"ความพิเศษ" ของดอยหลวงเชียงดาว  
เป็นภูเขาที่ไม่มี แหล่งเก็บน้ำ ไม่มีแหล่งน้ำธรรมชาติ แต่ที่นี้มีความพิเศษคือ;มีพรรณไม้แบบที่เรียกกว่า “กึ่งอัลไพน์” แห่งเดียว ในไทย คือ พวกพุ่มไม้เตี้ย ๆ และไม้ล้มลุกเนื่องจากหน้าดินมีน้อย ไม่มีน้ำและอากาศเย็น เป็นพืชแบบแถบหิมาลัย แต่พัฒนาตนเองเป็นพืช เฉพาะถิ่น จึงมีดอกไม้สวย ๆ มากมายที่เราพบได้เฉพาะที่นี่เท่านั้น และพรรณไม้บางสายพันธุ์มีที่ดอยหลวงเชียงดาว ที่เดียวใน เช่น ค้อเชียงดาว  สิงโตเชียงดาว สิงโตขนตาขาว สิงโตตาแดง  สิงโตเล็บเหยี่ยว อั้วปากฝอยเชียงดาว งูเขียวปากม่วง รองเท้านารีเมืองกาญจน์  เอื้องนางเทียน นอกจากนั้นยังมีพรรณไม้ที่โดดเด่นทั้งสวย และมีลักษณะพิเศษเฉพาะตัวอยู่อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเทียนนกแก้ว ที่ให้ดอกเป็นรูปร่างเหมือนนกแก้ว, ค้อเชียงดาวหรือปาล์มรักเมฆ ที่สามารถขึ้นได้ในสภาพหินปูนและ ท้าแรงลมอยู่ตามไหล่เขา ได้อย่างน่าอัศจรรย์  เหยื่อจงหรือเทียนหมอคา ซึ่งเป็นเทียนที่ใหญ่ที่สุด ชมพูพิมพ์ใจหรือแม้แต่กุหลาบ เลื้อยเชียงดาวหรือศรีจันทรา 

ดอยหลวงเชียงดาวกับ "สัตว์ป่าที่หายากและใกล้สูญพันธุ์"
ดอยหลวงเชียงดาวแห่งนี้ นอกจากจะเต็มไปด้วยผืนป่าและแมกไม้นานาพันธุ์แล้ว ยังเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าที่หายากและใกล้สูญพันธุ์เช่น ผีเสื้อสมิงเชียงดาวไก่ฟ้าหางลายขวาง กวางผาหรือที่ชาวบ้านเรียก กันว่า ”ม้าเทวดา”และเลียงผาเป็นต้น  พร้อมมีนกหลากหลายชนิดให้ได้ชื่นชม นักส่องนกจึงนิยมมาเที่ยวที่นี่กันมาก 

"ความโรแมนติก" ของดอยหลวงเชียงดาว 
คุณจะได้เห็นความสวยงามของดวงดาว ที่ระยิบระยับพร่างพราวเต็มท้องฟ้า พร้อมแสงอ่อนๆ ของดวงจันทร์ เป็นภาพที่สุดแสนจะโรแมนติก และคลาสสิกเกินบรรยาย และเช้าตรู่ คุณจะพบกับทะเลหมอกที่แผ่กระจายคลุมผืนป่า โดยมีพระอาทิตย์คอยให้แสงร่ำไรทักทายเรา

ดอยตะมาน หรือ ป่าเกี๊ยะ (เกี๊ยะ เป็นคำเมืองแปลว่า ต้นสน) ตั้งอยู่ในเขตท้องที่อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ขึ้นอยู่กับหน่วยจัดการต้นน้ำแม่ตะมาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยทั่วไปมีอากาศหนาวเย็นเกือบตลอดปี โดยจะหนาวจัดในช่วงฤดูหนาว ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน – กุมภาพันธ์ จากนั้นอากาศจะเริ่มอบอุ่น จากหน่วยงานสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ได้โดยรอบ อีกทั้งยังมองเห็นยอด "ดอยเชียงดาว" อีกด้วย บนดอยแม่ตะมานยังมีอีก 1 จุด ที่สวยงามไม่แพ้กัน คือ หน่วยจัดการต้นน้ำแม่ตะมาน ซึ่งอยู่จะอยู่ก่อนสถานีเกษตรที่สูงสันป่าเกี๊ยะ ห่างกันประมาณ 600 เมตร ที่นี่มีบ้านพักรับรอง 1 หลัง และจุดกางเต้นท์ด้วยและเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยงาม ช่วงเย็นสามารถเดินมาชมพระอาทิตย์ตกที่บริเวณนี้ได้

สถานีเกษตรที่สูงสันป่าเกี๊ยะ เป็นสถานีทดลองของโครงการพัฒนาที่สูงไทย-ออสเตรเลีย ภายใต้การบริหารของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ทำการทดลองปลูกพืชและผลไม้เมืองหนาว และเป็นแหล่งศึกษาธรรมชาติวิทยาและความหลากหลายทางชีวภาพ ตั้งอยู่บน ดอยแม่ตะมาน ตำบลแม่นะ อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่

รายละเอียดค่าบริการ และ การชำระเงิน

ราคาปกติ 7,100 พิเศษ!!! สำหรับลูกค้าเก่า Foto Journey ราคาเพียง 6,500 บาท

ณ วันที่จอง : ชำระเต็มจำนวน

***โดยบริษัทถือลำดับการชำระเงิน เป็นสำคัญ ในการยืนยันสิทธิ์การเดินทาง***

***สำหรับลูกค้าที่เดินทางท่านเดียว ทางบริษัทจะจัดหารูมเมทให้โดยไม่จำเป็นต้องชำระค่าใช้จ่ายสำหรับพักเดี่ยวแต่อย่างใด***


เงื่อนไขการจองและการชำระเงิน

ณ วันที่จอง 0 บาท

***โดยบริษัทถือลำดับการชำระเงิน เป็นสำคัญ ในการยืนยันสิทธิ์การเดินทาง สำหรับลูกค้าที่เดินทางท่านเดียว ทางบริษัทจะจัดหารูมเมทให้โดยไม่จำเป็นต้องชำระค่าใช้จ่ายสำหรับพักเดี่ยวแต่อย่างใด***

INCLUSION

- ค่าที่พักตลอดการเดินทาง (1-2 ท่าน/เต็นท์)
- ค่าอาหารทุกมื้อ
- ค่าเข้าเยี่ยมชมสถานที่ต่างๆที่ระบุไว้ในโปรแกรม
- ค่ายานพาหนะ, น้ำมัน, ที่จอดรถ, ทางด่วนและอื่นๆ ที่ใช้ในการเดินทาง

- ค่าบริการลูกหาบ น้ำหนัก 4 กิโลกรัม
- บริการถ่ายภาพและสอนการถ่ายภาพตลอดการเดินทาง
- ค่าประกันภัยการเดินทางอุบัติเหตุ วงเงินรวมสูงสุด 2,000,000 บาท เงื่อนไขตามรายละเอียดในกรมธรรม์

EXCLUSION

- ค่าเดินทางไปเชียงใหม่

- ค่าใช้จ่ายส่วนตัวอื่นๆ นอกเหนือรายการ เช่น ค่าเครื่องดื่ม มินิบาร์ ค่าโทรศัพท์ ค่าซักรีด เป็นต้น

- ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่ได้คาดการณ์

การชำระเงินค่าเดินทาง


กสิกรไทย
ออมทรัพย์ เซ็นทรัลพลาซ่า แกรนด์ พระราม9
เลขที่บัญชี
037-2-57628-6
ชื่อบัญชี
บริษัท โฟโต้ เจอร์นี่ จำกัด

ไทยพาณิชย์
ออมทรัพย์ เซ็นทรัลพลาซ่า แกรนด์ พระราม9
เลขที่บัญชี
408-825346-9
ชื่อบัญชี
บริษัท โฟโต้ เจอร์นี่ จำกัด

หลังจากโอนเงิน

กรุณาส่งใบโอนเงินไปที่

Line: FotoJourney หรือ

Inbox Facebook: FotoJourneyTH

Important Note

- ทริปถ่ายภาพนี้ เป็นทริปถ่ายภาพจะเน้นถ่ายรูปแสงเช้า แสงเย็น เป็นหลัก ดังนั้น แผนเดินทางอาจจะมีการปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสม เพื่อให้ทุกท่านได้ถ่ายภาพตามให้มากที่สุด

- กรณีลูกค้าท่านใดไม่สะดวกจองตั๋วเครื่องบินเอง ทางบริษัท โฟโต้เจอร์นี่ ขออนุญาติให้บริษัทที่มีความชำนาญด้านการจองตั๋วเครื่องบินโดยเฉพาะ ดูแลสมาชิกทุกท่าน เพื่อให้สมาชิกได้รับความสะดวกสบายสูงสุด

จองตั๋วเครื่องบิน ✈ :  

บริษัท ซอฟา วาเคชั่น จำกัด

คุณ สุภาภรณ์ มินยา (ด๊ะ) กรรมการผู้จัดการ
โทร : +6686-901-6501
อีเมลล์ : dahminya@gmail.com
Line: 0869016501

เงื่อนไขการยกเลิกทริป

กรณีที่ลูกค้าไม่สะดวกเดินทางและมีความจำเป็นต้องยกเลิกการเดินทาง และมีการยกเลิกการเดินทาง
กรณีทางบริษัท หาคนเดินทางแทนได้ ทางบริษัทจะทำการคืนเงินให้ท่านเต็มจำนวน
กรณีทางบริษัท หาคนเดินทางแทนไม่ได้ ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการไม่คืนเงิน
หมายเหตุ : ในกรณีที่ค่าทริปรวมตั๋วเครื่องบิน บริษัทจะทำการคืนเงินรีฟันด์ตั๋วเครื่องบินให้ลูกค้าตามเงื่อนไขของสายการบินนั้นๆ


ความรับผิดชอบ และ เงื่อนไขอื่นๆ

ในกรณีที่ทริปต้องถูกยกเลิกการเดินทาง ด้วยเหตุปัจจัยต่างๆ เช่น เกิดการก่อการร้าย เกิดความไม่สงบ เกิดการประท้วง เกิดจากภัยธรรมชาติทำให้ไม่สามารถเดินทางได้ หรือเหตุอื่นๆที่ถือว่าเป็นเหตุสุดวิสัย โดยถือว่าการตัดสินใจยกเลิกการเดินทางเป็นสิทธิ์ขาดของทางบริษัท ทางบริษัทยินดีที่จะคืนค่าทริปที่ลูกค้าจ่ายมาทั้งหมด ยกเว้นค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าที่พัก หรืออื่นๆที่มีการดำเนินการชำระเงินไปแล้ว
บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบใดๆ ที่เกิดจากความล่าช้าของสายการบิน เหตุการณ์ทางการเมือง การปฏิเสธการเข้าเมือง การโดนกักตัว หรือถูกส่งตัวกลับ ความเสียหายหรือสูญหายของกระเป๋าเดินทาง กระเป๋าใบเล็ก หรือของมีค่าส่วนตัวของท่านระหว่างการเดินทาง โดยสิทธิประโยชน์ของท่านจะได้รับตามกรมธรรม์ประกันการเดินทางที่ระบุความรับผิดชอบไว้เท่านั้น ทั้งนี้ บริษัทฯ จะยืดถือผลประโยชน์ของลูกค้าเป็นสําคัญ แต่ไม่สามารถคืนเงินค่าทริปให้ท่านได้

และหากเกิดเหตุสุดวิสัยดังต่อไปนี้ ทางบริษัทไม่อาจรับผิดชอบต่อความเสียหายต่างๆ ที่อยู่เหนือการควบคุมของเจ้าหน้าที่บริษัทฯ อาทิ
o การนัดหยุดงาน การจลาจล เปลี่ยนแปลงกำหนดเวลาในตารางบิน ภัยธรรมชาติ ฯลฯ หรือค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่เกิดขึ้น ทั้งทางตรง หรือทางอ้อม เช่น การเจ็บป่วย การถูกทำร้าย การสูญหาย ความล่าช้า หรือ จากอุบัติเหตุต่างๆ ฯลฯ
o การตอบปฏิเสธการเข้าและออกเมืองของเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าหรือออกเมือง อันเนื่องมาจากมีสิ่งผิดกฏหมาย หรือเอกสารการเดินทางไม่ถูกต้อง หรือการถูกปฏิเสธในกรณีอื่นๆ
o  การเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากสายการบินเช่น การยกเลิกเที่ยวบิน / เครื่องดีเลย์ / กระเป๋าสัมภาระมาไม่ครบ / การขึ้นราคาค่าตั๋วเครื่องบิน เป็นต้น
o บริษัทฯ มีสิทธ์ที่จะเปลี่ยนแปลงรายละเอียดบางประการในทัวร์นี้ เมื่อเกิดเหตุสุดวิสัยจนไม่อาจแก้ไขได้
o หากท่านถอนตัวก่อนรายการท่องเที่ยวจะสิ้นสุดลง ทางบริษัทฯ จะถือว่าท่านสละสิทธิ์และจะไม่รับผิดชอบค่าบริการที่ ท่านได้ชำระไว้แล้ว ไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น
o บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบต่อการห้ามออกนอกประเทศ หรือ ห้ามเข้าประเทศ อันเนื่องมาจากมีสิ่งผิดกฎหมาย หรือ เอกสารเดินทางไม่ถูกต้อง หรือ การถูกปฏิเสธในกรณีอื่น
o กรณีเกิดความผิดพลาดจากตัวแทน หรือ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จนมีการยกเลิก ล่าช้า เปลี่ยนแปลง การบริการจาก สายการบิน บริษัทขนส่ง หรือ หน่วยงานที่ให้บริการ บริษัทฯ จะดำเนินโดยสุดความสามารถที่จะจัดบริการทัวร์อื่น ทดแทนให้ แต่จะไม่คืนเงินให้ สำหรับค่าบริการนั้นๆ
o มัคคุเทศก์ พนักงาน และตัวแทนของบริษัท ฯ ไม่มีสิทธิ์ในการให้คำสัญญาใดๆ ทั้งสิ้นแทนบริษัทฯ นอกจากมีเอกสาร ลงนามโดยผู้มีอำนาจของ
บริษัทฯ กำกับเท่านั้น